ปัญหาสายตาเป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนพบเจอเมื่อมีอายุที่มากขึ้น แต่ถ้าหากเราสามารถปกป้องดวงตาของเราได้หล่ะ!

คงจะดีไม่น้อยถ้าเราสามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างชัดเจนไปจนแก่ การดูแลรักษาดวงตา ปกป้อง ป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่มีผลกระทบกับสายก็สามารถยืดอายุการใช้งานของสายตาของเราไปได้ เมื่อวัดสายตาแล้วมีปัญหาสายตา การได้สวมใส่แว่นที่เหมาะสมก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี และปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีต่างๆทำให้มีเลนส์สายตาที่มีคุณสมบัติต่างๆให้เลือกสรรเพิ่มมากขึ้น เลนส์มัลติโค๊ตก็เป็นหนึ่งในนั้น วันนี้ Giftgreats จะพาไปรู้จักกับ เลนส์มัลติโค๊ต กันค่ะ

เลนส์มัลติโค๊ต คืออะไร

             เลนส์มัลติโค๊ตคืออะไร คงเป็นคำถามที่หลายๆคนสงสัยใช่ไหมคะ?

ต้องบอกก่อนว่าโดยพื้นฐานทั่วไปหากไม่เจาะลึกเลนส์มัลติโค๊ตของแต่ละยี่ห้อแล้ว เลนส์มัลติโค๊ตก็คือ เลนส์ที่ถูกเคลือบด้วยคุณสมบัติต่างกันที่ผิวเลนส์หลายชั้นมากๆ เช่น Hard Coat , Base Coat  Water resistance , EMI ,Hydrophobic coat, Anti-Reflective Coats และ อื่นๆอีกมากมาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของเลนส์นี้คือ Anti-Reflective Coats โดยที่จะเคลือบที่ผิวเลนส์หลายชั้นมาก โดยคุณสมบัติของมันคือ ลดการสะท้อนที่ผิวเลนส์ ทำให้ภาพใส คมชัดไม่เบลอ ซึ่งสารที่เคลือบเลนส์มัลติโค๊ต เรียกว่า สารมัลติเลเบอร์

คุณสมบัติ เลนส์มัลติโค๊ต

  1.             ช่วยลดการสะท้อนของแสง เลนส์มัลติโค๊ตสามารถตัดแสงสะท้อนได้ถึง 99% ทำให้มองภาพได้ชัด และใสเป็นธรรมชาติ และจุดสำคัญของเลนส์นี้ในการปกป้องดวงตาของเราคือ การที่เลนส์มัลติโค๊ตมีการเคลือบสารที่สามารถป้องกัน UV ได้ถึง 100% ที่ 400 นาโนเมตร ซึ่งรังสี UV หากได้รับในปริมาณมากๆเป็นเวลานานติดต่อกันโดยไม่ป้องกัน อาจทำลายเลนส์ตาและจอประสาทตา และยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการเป็นต้อกระจกอีกด้วย
  1.             ลดรอยขีดข่วน มีความคงทนแข็งแรง ทำให้แว่นตาที่ใช้เลนส์มัลติโค๊ตมีอายุการใช้งานที่มากขึ้น และที่สำคัญทำความสะอาดง่าย เนื่องจากมีสารเคลือบผิวที่แข็งและลื่น ทำให้เป็นรอยได้ยาก คราบต่างๆสามารถเช็ดออกได้ง่าย  และที่สำคัญ เอาใจคนรักการถ่ายรูป เลนส์มัลติโค๊ตเวลาถ่ายรูปจะไม่ค่อยมีเงาสะท้อนเท่าไหร่ ทำให้ภาพที่ออกมาดูสวยกว่าเลนส์ปกติธรรมดา
  1.             เลนส์มัลติโค๊ตช่วยให้มองเห็นภาพคมชัด แสงฟุ้ง แสงกระเจิงน้อยกว่าเลนส์ที่ไม่ได้เคลือบมัลติโค๊ต อย่างสังเกตเห็นได้ชัด และด้วยความแสงฟุ้งน้อยทำให้สามารถใช้ได้ทั้งตอนกลางวัน และกลางคืน อีกทั้งยังเหมาะกับการใช้งานหน้าคอมพิวเตอร์ เพราะเลนส์มัลติโค๊ตสามารถป้องกันรังสีอินฟาเรด จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย
  1.             มาถึงข้อสุดท้ายที่คนใส่แว่นอาจจะประสบปัญหาคือ การปรับสายตาในเวลาที่มีแสงมาก หรือต้องออกแดดจัด เลนส์มัลติโค๊ตสามารถปรับสายตาของเราได้เป็นอย่างดี เนื่องจากตัวเลนส์เองมีคุณสมบัติในการปรับแสงเข้มได้ถึง 50-60% เรียกได้ว่า ช่วยลดแสงไปกว่าครึ่ง

หลังจากรู้คุณสมบัติพื้นฐานของเลน์มัลติโค๊ตกันไปแล้ว ร้านแว่นตา Giftgreats จะมาเจาะลึกไปกว่านั้น โดยการเปรียบเทียบราคาเลนส์มัลติโค๊ตของแต่ละแบรนด์ว่าทำไมถึงมีราคาต่างกัน มีคุณสมบัติอะไรที่อาจจะเพิ่มเติมขึ้นมาบ้างจากราคาที่เพิ่มสูงขึ้น โดยตัวอย่างที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นเลนส์ที่มีความบางขนาด 1.56 นะคะ หากต้องการข้อมูลในขนาดอื่นๆ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่

เปรียบเทียบ เลนส์มัลติโค๊ต ของแต่ละแบรนด์

เลนส์มัลติโค๊ต ของ DURALENS

ชื่อรุ่น HMC Dura  สามารถตัดค่าสายตาได้ตั้งแต่ -6.00 ถึง +4.00 และค่าความเอียงต้องไม่เกิน -2.00

ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาท (ไม่รวมราคากรอบแว่น)

เลนส์มัลติโค๊ต ของ TOG

เลนส์มัลติโค๊ตของ TOG ก็มีรุ่นแยกย่อยออกมาให้เลือกตามการใช้งานมากมาย

TOG Hmc 

สามารถตัดค่าสายตาได้ตั้งแต่ -6.00 ถึง +4.00 และค่าความเอียงต้องไม่เกิน -2.00

ค่า index 1.56  ราคา 1,000 บาท (ไม่รวมราคากรอบแว่น)

และอีกหนึ่งราคา สามารถตัดค่าสายตาได้ตั้งแต่ -0.00 ถึง -8.00 และค่าความเอียงต้องไม่เกิน -3.00

ค่า index 1.60  ราคาเริ่มต้นที่ 2,500 บาท (ไม่รวมราคากรอบแว่น)

TOG Hmc AS

โดยที่ความพิเศษของเลนส์มัลติโค๊ต แบรนด์ TOG รุ่นนี้คือ AS

ย่อมาจาก Aspheric Lens คือ โครงสร้างเลนส์มุมมองแบบกว้าง

ค่า index 1.60  สามารถตัดค่าสายตาได้ตั้งแต่ -10.00 ถึง +6.00 

และค่าความเอียงต้องไม่เกิน -2.00 ราคา 3,000 บาท (ไม่รวมราคากรอบแว่น)

ค่า index 1.67  สามารถตัดค่าสายตาได้ตั้งแต่ -1.00 ถึง -10.00 

และค่าความเอียงต้องไม่เกิน -2.00 ราคา 3,500 บาท (ไม่รวมราคากรอบแว่น)

ค่า index 1.74  สามารถตัดค่าสายตาได้ตั้งแต่ -2.25 ถึง -10.00 และค่าความเอียงต้องไม่เกิน -2.00

หรือค่าสายตาได้ตั้งแต่ -10.50 ถึง -12.50 และค่าความเอียงต้องไม่เกิน -2.00

หรือค่าสายตาได้ตั้งแต่ -13.00 ถึง -15.00 โดยแบบที่ 3 นี้ ไม่รับค่าสายตาเอียง

ราคา 9,500 บาท (ไม่รวมราคากรอบแว่น)

TOG index 1.76

เลนส์มัลติโค๊ตของ TOG ที่มี index 1.76 เป็นเลนส์ที่มีค่าความบางพิเศษ

และมี SPS (super power shield) ป้องกันรอยขีดข่วน ป้องกันแสงสะท้อน

เหมาะกับผู้ที่มีค่าสายตามาก โดยแบ่งเป็น 2 รุ่นด้วยกัน คือ

TOG AS (SPS)  สามารถตัดค่าสายตาได้ตั้งแต่ -2.00 ถึง -10.00 

และค่าความเอียงต้องไม่เกิน -2.00  หรือตัดค่าสายตา -10.00 ถึง -12.00 ไม่รองรับสายตาเอียง

ราคา 11,500 บาท (ไม่รวมราคากรอบแว่น) **รุ่นนี้สตอคสินค้าจากญี่ปุ่น รอสินค้า 10-14 วัน

BI-As GO (SPS)  สามารถตัดค่าสายตาได้ตั้งแต่ -3.00 ถึง -9.00 

และค่าความเอียงต้องไม่เกิน -2.00  หรือตัดค่าสายตา -9.25 ถึง -11.00 ไม่รองรับสายตาเอียง

ราคา 12,500 บาท (ไม่รวมราคากรอบแว่น)

เลนส์มัลติโค๊ต ของ ZEISS

โดยที่แบรนด์ ZEISS ก็จะแบ่งเป็นอีก 4 รุ่น

ZEISS Synchony

สามารถตัดค่าสายตาได้ตั้งแต่ –6.00 ถึง +4.00 และค่าความเอียงต้องไม่เกิน –2.00

ค่า index 1.56  ราคา 2,000 บาท (ไม่รวมราคากรอบแว่น)

ZEISS Dura Platinum 1.56

สามารถตัดค่าสายตาได้ตั้งแต่ –6.00 ถึง +4.00 และค่าความเอียงต้องไม่เกิน –2.00

ค่า index 1.56  ราคา  3,500 บาท (ไม่รวมราคากรอบแว่น)

ZEISS Dura Platinum 1.60

สามารถตัดค่าสายตาได้ตั้งแต่ -8.00 ถึง +4.00 และค่าความเอียงต้องไม่เกิน –2.00

ค่า index 1.60  ราคา  5,500 บาท (ไม่รวมราคากรอบแว่น)

ZEISS Dura Platinum 1.67

สามารถตัดค่าสายตาได้ตั้งแต่ -2.00 ถึง -10.00 และค่าความเอียงต้องไม่เกิน -2.00

ค่า index 1.67  ราคา 7,500 บาท (ไม่รวมราคากรอบแว่น)

             แต่อย่างไรก็ตามของทุกอย่างล้วน มีข้อดี และ ข้อเสีย ที่ผ่านมาอาจจะเขียนถึงข้อดีไปส่วนใหญ่ คราวนี้เราจะบอกถึงข้อเสียของเลนส์มัลติโค๊ตบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการตัดแว่นของลูกค้าเพื่อให้ตรงต่อความต้องการของตัวเองมากที่สุด ซึ่งข้อเสียแรกที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยคือ เลนส์มัลติโค๊ตมี ราคา แพง กว่าเลนส์แว่นตาธรรมดาปกติ เพราะด้วยคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นมา จึงทำให้ราคาสูงตามไปด้วย ซึ่งราคาก็ปรับเปลี่ยนไปตามคุณภาพการใช้งานตามแต่ละยี่ห้อตามที่กล่าวมาข้างต้น

             หลายๆคนที่ซื้อเลนส์มัลติโค๊ตอาจจะมีความคาดหวังว่าต้องสามารถกันแดดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงมาสู่ ข้อเสียของเลนส์มัลติโค๊ตข้อที่ 2 คือ แว่นตาเลนส์มัลติโค๊ต แว่นกันแดด เพราะฉนั้นความคาดหวังที่จะใช้เลนส์มัลติโค๊ตแทนแว่นกันแดดเพื่อกันแดดเลยนั้นอาจจะไม่ตรงต่อการใช้งานเท่าไหร่ เพราะแว่นกันแดดมีความเข้มมากถึง 80 – 90% ต่างจากตัวเลนส์มัลติโค๊ตที่กันได้ 50-60%

             สุดท้ายแล้วอย่างไรก็ดีทาง ร้านแว่นตา Giftgreats ก็ขอแนะนำว่าหากจะตัดแว่นทั้งทีก็ให้เลือกเป็นเลนส์มัลติโค๊ตไปเลยดีกว่า เพราะจากข้อดีที่กล่าวไปข้างต้นยังไงก็คุ้มกว่าซื้อเลนส์สายตาธรรมดาแน่นอน เพราะแว่นตาก็อุปกรณ์ที่ทำให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นได้และเป็นของที่ใช้ในระยะยาว ดังนั้นจะตัดแว่นตาทั้งทีก็ตัดเลนส์ที่สามารถอยู่กับเราไปได้นานๆดีกว่า และที่สำคัญหากกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการตัดแว่น ร้านแว่นตา Giftgreats มี -โปรโมชั่น- ราคาพิเศษในทุกเดือนๆ รับรองว่ามาตัดแว่นที่ร้านแว่นตา Giftgreats ราคา ไม่แพงอย่างทีคิด แถมยังได้เลนส์คุณภาพดี และ ราคา สบายกระเป๋าแน่นอนค่ะ

ช่องทางการติดต่อ

LINE : @giftgreats