ขอเสียงชาวออฟฟิศหน่อยค่า วันนี้ Giftgreats มีบทความดีๆที่ชาวออฟฟิศทุกคนควรต้องอ่าน เพราะเป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญกันอยู่ทุกๆวัน นอกจากโรคออฟฟิศซินโดรมที่ชาวมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานในออฟฟิศจะต้องเสี่ยงแล้ว ยังมีอีกหลายโรคที่เป็นภัยร้ายต่อชาวออฟฟิศ นอกจากปัญหาด้านกล้ามเนื้อ ปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดหัวแล้ว ปัญหาสายตา อย่างโรคตาแห้ง ก็เป็นปัญหาหนึ่งที่มักพบบ่อยในคนที่ต้องทำงานในออฟฟิศ ที่ต้องทำงานหน้าคอมตลอดเวลา แต่อ่านแล้วอย่าเพิ่งตกใจไป เพราะทุกทางออกมีปัญหา เอ้ยยย ทุกปัญหามีทางออก เพราะบทความนี้ เราจะมาพูดถึงสาเหตุอาการ ตาแห้ง วิธีป้องกันกันค่ะ
ตาแห้ง คืออะไร ?
ก่อนอื่นที่จะทราบสาเหตุของโรคตาแห้ง ต้องขออธิบายก่อนว่า โรคตาแห้ง คืออะไร โรคตาแห้ง ด้วยชื่อโรคนั้น คนอาจจะเข้าใจว่าตาต้องแห้ง ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตาแห้ง นั้นมีอาการตรงกันข้ามกับชื่อโรคเลย จะมีลักษณะได้ 2 อาการคือ ไม่มีน้ำตามาหล่อเลี้ยงดวงตาหรือน้ำที่มาหล่อเลี้ยงดวงตาระเหยเร็วเกินไปซึ่งอาจเกิดจากสภาพอากาศได้ ทำให้ฝืดเคือง ระคายดวงตา แสบตา กับแบบที่ 2 ที่คนไม่ค่อยทราบกันคือ การที่ดวงตามีการหลั่งน้ำตามาหล่อเลี้ยงมากเกินไป จนทำให้ตาแฉะ ซึ่งด้วยการตั้งชื่อ คงคล้ายๆกับโรคเบาหวานที่ไม่ได้ เบา หวาน ตามชื่อโรคตาแห้ง เบื้องต้นส่วนใหญ่ที่พบมักเกิดจากพฤติกรรมสุขภาพ หรือการขาดการป้องกันดูแลรักษาดวงที่ถูกต้อง ซึ่งตาแห้งอาจเกิดได้จากปัจจัยภายนอก หรือภายในตัวบุคคลได้ค่ะ
ฝุ่นละออง สภาพอากาศ
อาการ ตาแห้ง ปัญหาสุขภาพดวงตาที่มาพร้อมกับอากาศหนาว พนักงานออฟฟิศส่วนใหญ่ทำงานในห้องแอร์ ซึ่งมีสภาพอากาศที่แห้งและเย็น นอกจากจะทำให้ผิวกายแห้งแล้ว ดวงตายังแห้งอีกด้วย ยิ่งถ้าเป็นผู้ที่ต้องทำงานหน้าคอมตลอดเวลา ต้องจดจ้องหน้าจอ การกระพริบตาก็จะน้อยลงกว่าปกติด้วย เพราะต้องโฟกัสกับงานบนหน้าจอตลอดเวลา ซึ่งการที่กระพริบตาน้อยก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการตาแห้ง ยิ่งอยู่ในสภาพอากาศที่แห้งและเย็นอย่างในห้องแอร์อีก ยิ่งส่งผลให้ดวงตาแห้งมากยิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้นการพกน้ำตาเทียม หรือการกระพริบตาบ่อยๆก็สามารถช่วยเรื่องของอาการตาแห้งได้
ใช้คอนแทคเลนส์เกินระยะเวลานานเกิน
การใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่มีคุณภาพ หรือใช้เกินระยะเวลาจะทำให้ดวงตาแห้ง เพราะเวลาที่เราใส่คอนแทคเลนส์ คอนแทคเลนส์จะดึงน้ำที่ดวงตาเพื่อให้เลนส์สามารถคงความใสของตัวเลนส์อยู่ได้ ดังนั้น หากใครใส่คอนแทคเลนส์ ควรพกน้ำตาเทียมเพื่อหยอดตาบ่อยๆ ไม่ให้ดวงตาแห้ง รวมถึงการใช้คอนแทคเลนส์ให้ถูกวิธี ถูกสุขลักษณะเพื่อลดการอักเสบ ติดเชื้อที่ดวงตา และใช้ตามระยะเวลาที่กำหนดมาไม่ใช้เกินระยะเวลาก็จะช่วยถนอมดวงตาให้มีสุขภาพดวงตาที่ดีได้
ต่อมไขมันที่ตาอุดตันหรือเสื่อม
การที่ต่อมไขมันที่ตาเกิดการอุดตันหรือเสื่อม จะทำให้น้ำตาที่เคลือบดวงตาระเหยเร็ว ความชุ่มชื่นไม่เพียงพอ ซึ่งผู้ที่เสี่ยงคือผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป
หรือผู้ที่ชอบแต่งหน้าบริเวณดวงตามากๆ โดยเฉพาะการเขียนขอบตา แล้วเช็ดทำความสะอาดไม่สะอาดพอ ซึ่งสาเหตุนี้มักเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
พักผ่อนไม่เพียงพอ
ในแต่ละวัน พนักงานทำงานต้องใช้ดวงตาในการทำงานตลอดเวลาทั้งวัน ทำให้ดวงตาทำงานหนัก ไม่ว่าจะเป็นการนั่งหน้าจอทั้งวัน การอ่านหนังสือนานๆ การเล่นโทรศัพท์มือถือ การใช้สายตาจดจ่อมากๆก็เป็นสาเหตุให้ตาแห้ง รวมถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่ดีส่งผลถึงสุขภาพในด้านต่างๆรวมถึงทำให้การสร้างน้ำตาลดน้อยลงไปด้วย
การทานยาบางชนิด ที่ทำให้ตาแห้ง
ยาบางชนิดมีส่วนที่ทำให้การสร้างน้ำตาที่มาหล่อเลี้ยงดวงตาน้อยลง ซึ่งจะเป็นยาในกลุ่มantihistamine ที่ใช้รักษาโรคหวัดและอาการภูมิแพ้ ยากล่อมประสาท ยาที่ใช้รักษาโรคทางจิตเวช ยาลดความดันโลหิตในกลุ่มที่ออกฤทธิ์โดยการขับปัสสาวะ ซึ่งหากรับประทานยาเหล่านี้อยู่ก็ควรดูแลดวงตาควบคู่ไปด้วยเพื่อไม่ให้ตาแห้ง
CHECKLIST เราตาแห้งรึป่าวนะ !
⇒ ตาแดง หรือตาบวม
⇒ รู้สึกตาล้า เมื่อหลับตานานๆถึงจะรู้สึกดีขึ้น
⇒ ตามัว ภาพเบลอ ไม่ชัด
⇒ ตามีความไวต่อแสง มองกลางแจ้งไม่ได้ แพ้แสง แพ้ลม
⇒ รู้สึกคัน ระคายเคือง รู้สึกเหมือนมีอะไรที่ตา แต่ความจริงไม่มี
วิธีป้องกันอาการ ตาแห้ง
1.วิธีการที่ง่ายที่สุดที่ทุกคนสามารถทำได้ คือ การใช้น้ำตาเทียมหยอดตา เพื่อให้ดวงตามีน้ำหล่อเลี้ยง
โดยพนักงานออฟฟิศที่ทำงานในห้องแอร์ก็ควรหยอดตาบ่อยๆ หรือทุกครั้งที่รู้สึกว่าเคืองตาก็สามารถช่วยบรรเทาอาการ และป้องกันโรคตาแห้งได้
ข้อควรระวัง : ผู้ที่มีตาแห้งน้อยไม่ควรหยอดน้ำตาเทียมเกิน 4 – 5 ครั้งต่อวัน
ส่วนในผู้ที่มีตาแห้งง่ายและตาแห้งมากสามารถหยอดได้มากกว่า 6 ครั้งต่อวัน
2.คนทำงานที่ต้องเจอลมแรงตลอดเวลา อย่างเช่นพนักงานขับรถ ควรสวมใส่แว่นตาเพื่อกันลม กันแสงที่สามารถทำให้ตาแห้ง หรือพนักงานออฟฟิศที่นั่งทำงานหน้าคอมต่อให้ไปได้ไปเจอลม เจอฝนที่ไหน แต่แสงสีฟ้าจากหน้าจอก็สามารถทำให้ดวงตาเหนื่อยล้า และทำให้ตาแห้งได้เช่นกัน ควรสวมแว่นตาที่เป็นเลนส์บลูบลอค หรือป้องกันแสงสีฟ้า หรือผู้ที่ต้องอ่านหนังสือมากๆก็สามารถสวมใส่แว่นตา เพื่อลดอาการตาล้า ตาแห้งได้แต่อาจจะใช้เป็นเลนส์สายตาเพื่อสุขภาพแทนการใช้เลนส์บลูบลอค
3.พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อน การนอนที่มีประสิทธิภาพนอกจากจะทำให้รู้สึกสดชื่นไม่ง่วงนอนระหว่างวันแล้ว ยังทำให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานอย่างปกติและสมดุล รวมถึงการสร้างน้ำตาของดวงตา และนอกจากการพักผ่อนแล้ว การพักดวงตา พักสายตาระหว่างวันก็สำคัญเพื่อให้ดวงตาได้พัก ซึ่งสามารถทำง่ายๆได้โดยการปิดเปลือกตาเบาๆ สลับกับออกแรงปิดเปลือกตา ซึ่งวิธีการนี้จะสามารถช่วยกระตุ้นให้มีน้ำตาออกมามากขึ้น
4.สุดท้ายในกรณีที่อาการเกิดความรุนแรงมากๆ อาจต้องผ่าตัดเพื่อรักษาโรค ต้องรับคำปรึกษาและรักษากับจักษุแพทย์ที่โรงพยาบาล
ร้านแว่นตา Giftgreats มีกรอบแว่นมากมายหลายแบรนด์ให้เลือก และเลนส์คุณภาพดี ยี่ห้อดัง คุณภาพรับประกันได้ บริการตัดแว่นสายตาและเลนส์ทุกชนิด สามารถเข้ามาวัดสายตาอย่างละเอียดได้ ฟรี! ที่หน้าร้าน ที่มีถึง 6 สาขา ที่ร้านมีพนักงานผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ลูกค้า เพื่อตัดแว่นดีๆให้ตรงกับความต้องการและการใช้งานของลูกค้ามากที่สุด ไม่ว่าจะสายตาสั้น สายตายาว ก็สามารถตัดแว่นที่ร้านแว่น Giftgreatsได้
จะตัดแว่นทั้งทีต้องที่ Giftgreats
Reference : บทความตาแห้งจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
Leave A Comment