จากสถานการณ์ โควิด 19 ที่ระบาดไปทั่วทั้งโลก ส่งผลให้ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางด้านเศรษฐกิจ พฤติกรรม การทำกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ จากการที่เราเคยอยู่ร่วมกันเป็นสังคม ก็ต้องเกิดการ Social Distance หรือการเว้นระยะห่างทางสังคมขึ้น แต่ว่าชีวิตการทำงาน หรือชีวิตการเรียนก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป จึงทำให้การ Work From Home กลับมาเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลด การแพร่ระบาดของ โควิด 19
ซึ่งหลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าการ Work From Home คืออะไร แล้วการทำงานที่บ้านมันจะมีประสิทธิภาพเหมือนตอนที่ทำงานในที่ทำงานหรือไม่ วันนี้ Giftgreats จะมาแชร์ทริคการทำงานที่บ้านอย่างไร ให้มีประสิทธิภาพกันค่ะ
Work From Home ( WFH ) คืออะไร
Work From Home หรือเขียนแบบย่อๆว่า WFH ถ้าแปลตรงตัวแบบเข้าใจง่ายๆก็คือ การทำงานจากที่บ้าน นั่นแหละค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วการทำงานจากที่บ้านก็มีมานานแล้ว แต่อาจจะยังไม่ได้แพร่หลายในทุกธุรกิจเนื่องด้วยบางอุตสาหกรรมเป็นงานที่ต้องใช้อุปกรณ์บางอย่างที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ แต่การทำงานจากที่บ้านจะเป็นที่รู้จักโดยส่วนมากในแวดวงเทคโนโลยีและวงการไอที
แต่ปัจจุบันการเริ่มการทำงานจากที่บ้านเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของ โควิด 19 ก็เริ่มแพร่หลายมากขึ้นในหลายๆออฟฟิศ ซึ่งหลายๆคนก็อาจจะกำลังเริ่มWork From Home แต่ว่าจะทำยังไงหล่ะ ให้การทำงานที่บ้านเป็นการทำงานที่มีความสุขและได้งานที่มีประสิทธิภาพไปพร้อมๆกัน
วิธีwork from home ให้มีประสิทธิภาพ
กำหนดพื้นที่ WORK & HOME ให้ชัดเจน
เป็นสิ่งที่สำคัญมากจึงจัดมาไว้ในข้อแรกกันเลยค่ะ เพราะว่าปัญหาของคนที่ WFH ส่วนใหญ่ คือมักรวมที่ทำงานกับที่ที่เราต้องใช้ชีวิตส่วนตัวรวมไว้ในที่เดียวกัน หากเป็นไปได้ควรมีการแบ่งพื้นที่ทำงานอย่างชัดเจน ซึ่งการแบ่งพื้นที่จะช่วยให้เราสามารถโฟกัสกับงานและมีสมาธิได้มากขึ้น ซึ่งบางท่านอาจจะมีปัญหาเรื่องที่พักอาศัยที่อาจจะมีขนาดเล็ก ทริคแนะนำคือ ควรมีโต๊ะทำงาน หรืออาจจะเป็นโต๊ะญี่ปุ่นเล็กๆไว้ทำงาน ไม่ควรนอนทำงานบนเตียง เพราะอาจจะเสี่ยงงานไม่เสร็จเพราะแอบงีบได้ค่ะ
อุปกรณ์ในการทำงานต้องพร้อม
การทำงานจากบ้านสิ่งสำคัญคือ อุปกรณ์ในการทำงานของเราต้องมีความพร้อม ซึ่งอุปกรณ์ในการทำงานที่สำคัญหลักๆ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ ( หรือ Laptop ) , อินเตอร์เนต หรืออุปกรณ์ในการทำงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องของในแต่ละอาชีพ
และนอกจากอุปกรณ์ที่ต้องพร้อม ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีต่างๆก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะการทำงานจากบ้าน หมายถึง เราจะไม่ได้เจอเพื่อนร่วมงานตัวเป็นๆ การติดต่อสื่อสารต้องผ่านตัวกลางอย่างแอพฯต่างๆจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น แอพพลิเคชั่น Line ก็มีฟีเจอร์ฟรีๆที่เราอาจจะยังไม่รู้ ซึ่ง ฟีเจอร์ฟรี เหล่านี้เองที่จะช่วยให้การสื่อสารเกี่ยวกับงานง่ายและสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วปัญหาการใช้งานอุปกรณ์ไอที หรือการติดต่อสื่อสารผ่านทางช่องทางโซเชียลเพื่อคุยงาน หรือประชุม VDO CALL มักเกิดปัญหากับผู้ใหญ่ที่ไม่เคยใช้งาน ดังนั้นก่อนการเริ่ม ทำงานจากที่บ้าน ควรศึกษาการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆเพิ่มเติม ซึ่งการฝึกใช้งานสิ่งเหล่านี้ก็จะมีส่วนช่วยให้การทำงานของเราราบรื่นมากยิ่งขึ้น
จัดลำดับความสำคัญของ งาน ให้ดี
อย่างแรกต้องปรับทัศนคติก่อนว่า การทำงานจากบ้าน WFH ไม่ใช่การพักผ่อน หรือการลาพักร้อน แต่เป็นการทำงานที่ต้องทำงานในสถานที่ที่ไม่ใช่ที่ทำงาน ดังนั้น การทำงานก็คือการทำงาน ควรลำดับความสำคัญก่อนหลังให้ดีว่าเราควรทำงานไหนก่อน ซึ่งในข้อนี้ก็จะรวมถึงวินัยและความความรับผิดชอบตามงานที่เราได้รับมอบหมายด้วย
หลายๆท่านเมื่อทำงานจากบ้านก็จะมีความผ่อนคลายมากขึ้น จนถึงขั้นผ่อนคลายมากเกินไป อาจเนื่องด้วยเพราะไม่มีเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานค่อยสอดส่อง ซึ่งบางครั้งอาจเผลอใจกับการทำกิจกรรมอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานมากจนเกินไป ซึ่งส่งผลให้งานไม่เสร็จตามเวลา จนต้องเร่งทำ ทำให้งานไม่มีคุณภาพตามที่ควรจะเป็นได้ ซึ่ง Giftgreats มีทริคคือในแต่ละวันให้จดใส่กระดาษ แปะแถวโต๊ะทำงาน เป็น To Do List ว่าเป้าหมายในการทำงานของแต่ละวัน แต่ละอาทิตย์คืออะไร แล้วทำตามงานนั้นตามลำดับความสำคัญ เท่านี้เราก็จะมีสิ่งที่คอยย้ำเตือนเราไม่ให้วอกแวก และดำเนินตามแผนงานที่วางไว้ให้เสร็จได้ค่ะ
ผ่อนคลายบ้างก็ได้นะ ไม่มีใครว่า …
ข้อนี้อาจจะดูย้อนแย้งกับข้อที่แล้ว แต่ความหมายจริงๆแล้ว คือ การมี work life balance การผ่อนคลายในระยะเวลาที่พอเหมาะ ไม่มากจนเกินขอบเขต หรือน้อยจนกดดันมากเกินไป ซึ่งช่วงเวลาในการทำงาน และการพักผ่อนควรถูกจัดสรรอย่างเหมาะสมเพื่อให้การทำงานสำเร็จลุล่วงตามแผนงาน ซึ่งข้อดีของการทำงานที่บ้านรูปแบบของการพักผ่อนก็จะยืดหยุ่นสามารถเป็นตัวเองได้เต็มที่ ต่างจากที่ทำงานที่เราอาจจะต้องเคารพพื้นที่ส่วนรวม ดังนั้น เมื่อมีโอกาสได้ WFH เราก็สามารถเป็นเรา พักผ่อนในแบบตัวเองได้เต็มที่เลยค่ะ ขอแค่งานไม่เสียก็พอ
ซึ่งการพักผ่อนเราอาจจะสลับทำกิจกรรมที่เราชอบกับงานที่ทำ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่ามีวิธีในการผ่อนคลายอย่างไร ซึ่งการผ่อนคลายของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน อาจจะเปิดเพลงไปทำงานไป แว๊บไปเล่นกับสัตว์เลี้ยง พักดื่มกาแฟกินขนมขบเคี้ยว แต่ก็อย่าเพลินเกินไปหล่ะ! เตือน แล้ว นะ .
อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพ
ข้อสุดท้ายของวิธีการทำงานจากบ้านให้มีประสิทธิภาพ คือ การดูแลรักษาสุขภาพทั้งกายใจให้แข็งแรงอยู่เสมอ ซึ่งปัญหาทางสุขภาพที่พนักงานออฟฟิศหลายคนต้องเผชิญ คือ ออฟฟิศซินโดรม มักพบในผู้ที่ทำงานหน้าจอคอมในท่าเดิมๆแบบเดิมๆเป็นระยะเวลานาน เป็นปัญหาที่เกิดจากพฤติกรรมในการทำงาน รวมถึงความเครียดด้วย ซึ่งส่งผลให้มีอาการปวดบ่า คอ ไหล่ ปวดศีรษะ ปวดตา ซึ่งการป้องกันและแก้ไข คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม
และนอกจากปัญหา ออฟฟิศซินโดรม ที่มักพบได้บ่อยแล้ว ปัญหาสายตาก็ถูกพบมาก และมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเมื่อต้องทำงานหน้าจอตลอดเวลา ควรสวม แว่นกรองแสงสีฟ้า อยู่เสมอ เพื่อปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้า หรือหากต้องใช้ดวงตาเพ่งตลอดเวลาก็สามารถใช้ เลนส์ลดการเพ่ง ได้ ( สนใจซื้อแว่นกรองแสงสีฟ้า หรือ เลนส์ลดการเพ่ง คลิกที่นี่ ) หากร่างกายเจ็บป่วย จิตใจก็อาจอ่อนแอตามไปด้วย แต่หากเราดูแลร่างกายและจิตใจให้ดี เมื่อร่างกายและจิตใจแข็งแรงก็สามารถสร้างสรรค์งานที่มีประสิทธิภาพได้ค่ะ
Work From Home แตกต่างกับ Work At Home นะ
มองดูเผินๆคำสองคำนี้อาจจะดูมีความหมายเหมือนกัน แต่จริงๆแล้วทั้งสองคำนี้มีความแตกต่างกันอย่างมากWork From Home หมายถึง การทำงานจากที่บ้าน ซึ่งการทำงานจากที่บ้านเรายังเป็นพนักงานในบริษัทหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งอยู่ เพียงแต่ว่าสถานที่ทำงานของเราไม่ได้อยู่ในออฟฟิศ ซึ่ง WFH อาจจะสามารถทำได้จากที่บ้าน หรือตาม Co-Working Space ก็ได้ ลักษณะการทำงานก็จะเป็นแบบเดิมอาจจะแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆที่มีความจำเป็น หรือแล้วแต่วัฒนธรรมองค์กร กฎเกณฑ์ของแต่ละองค์กร
ส่วน Work At Home หมายถึง การทำงานที่บ้าน ซึ่งการทำงานรูปแบบนี้อาจหมายถึงการเป็นเจ้าของธุรกิจ ของครอบครัวหรือของบ้านตัวเอง ไม่ได้เป็นพนักงานลูกจ้างของบริษัทหรือองค์กรใด
ซึ่งข้อดีของการWork From Home คือ
ไม่เสียเวลาในการเดินทาง
ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของค่าเดินทางได้
มีอิสระทางด้านเวลามากขึ้น
และแน่นอนว่าด้วยข้อดีเหล่านี้ คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการอิสระทางด้านของเวลาจะชอบการทำงานที่ไม่ต้องเข้าบริษัทเป็นอย่างมาก เพราะสามารถวางแผนบริหารเวลาในการทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างเต็มที่ โดยที่ก็ยังสามารถทำงานได้ไปพร้อมกัน
โดยมีงานวิจัยของ ซิกน่าอินเตอร์เนชันแนลมาร์เกตส์ ที่ร่วมกับ Kantar ที่ศึกษาเกี่ยวกับ การทำงานแบบWork From Home โดยมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามจำนวน 10,204 คนจาก 8 ประเทศ คือ จีน, ฮ่องกง, สิงคโปร์, สเปน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และประเทศไทย ในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน 2563 ซึ่งจากผลการศึกษาทำให้เห็นสิ่งที่น่าสนใจ 3 ข้อคือ
พนักงานมีชีวิตการทำงานที่ดีมากขึ้น เกิดการสื่อสารในองค์กรมากขึ้น
จากผลวิจัยพบว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ตอบแบบสอบถามในประเทศไทย ระบุว่า วันทำงานของพวกเขามีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ต่อให้เวลาทำงานยาวนานขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ทำให้ความพอใจ ความสัมพันธ์ในองค์กรเพิ่มมากกว่าเดิม และนอกจากประเทศไทย ตามมาด้วยประเทศสเปน 80 เปอร์เซ็นต์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 79 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าทั่วโลกถึง 76 เปอร์เซ็นต์ และด้วยตัวเลขที่น่าสนใจนี้เอง อาจทำให้รูปแบบการทำงานของคนรุ่นใหม่อาจเปลี่ยนไปตลอดกาลหลังจาก โควิด 19 หมดไป
อยู่บ้านมีอิสระทางด้านเวลา ไม่ได้เหงาอย่างที่คิด
มาตรการ Social Distance อาจทำให้คนรู้สึกห่างไกลกันมากขึ้น กิจกรรมที่ต้องพบปะสังสรรค์กันก็ต้องถูกยกเลิกไป แต่ในทางกลับกันการ WFH ทำให้ผู้คนเหงาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากรายงานของเดือนเมษายนพบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า พวกเขารู้สึกโดดเดี่ยวและห่างไกลจากผู้อื่นลดลง (8 เปอร์เซ็นต์) เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม (11 เปอร์เซ็นต์) และ รู้สึกใกล้ชิดกับผู้อื่นมากยิ่งขึ้นในเดือนเมษายน เมื่อเปรียบเทียบกับ 69 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนมกราคม และยังอีกพบว่า ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระดับความใกล้ชิดถูกพัฒนาขึ้น จาก 71 เปอร์เซ็นต์ เป็น 80 เปอร์เซ็นต์ และ ในสหราชอาณาจักร เพิ่มขึ้นจาก 70 เปอร์เซ็นต์ เป็น 79 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสเปนเพิ่มขึ้นจาก 81 เปอร์เซ็นต์ เป็น 91 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งจากผลการวิจัยนี้ อาจเกิดจากการเมื่อต้องอยู่ไกลกัน จึงทำให้การติดต่อสื่อสารผ่านทางโซเชียลกันบ่อยมากขึ้นกว่าปกติเพื่อทดแทนการเห็นหน้ากัน ซึ่งปัจจุบันก็มีเทคโนโลยี แอพพลิเคชั่นมากมายที่มาช่วยลลดช่องว่างของความห่างไกลให้ใกล้ลง
ชั่วโมงการทำงานยาวขึ้น แต่ก็ยังพอใจอยู่
จากการสำรวจ พบว่า พนักงานที่ต้องทำงานจากบ้าน มีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานขึ้นกว่าชั่วโมงการทำงานปกติ และทำให้รู้สึกต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา โดย 75 เปอร์เซ็นต์ ของคนไทยเห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ดี ต่อให้รู้สึกว่ามีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานขึ้น แต่ก็มีความยืดหยุ่นในเรื่องของเวลาเช่นกัน จึงยังทำให้พอใจกับการทำงานแบบ WFH อยู่
เมื่ออ่านมาถึงตรงหวังว่าทุกคนจะได้ ไอเดียหรือทริคการWork From Home ให้มีประสิทธิภาพ และสามารถนำไปปรับใช้ได้นะคะ สุดท้ายนี้ในช่วงเวลาวิกฤต การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด 19 ระลอก 2 นี้ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องออกข้างนอก ล้างมือบ่อยๆ และช่วยกันเว้นระยะห่างทางสังคมนะคะ ร้านแว่นตา Giftgreats ยังเปิดให้บริการปกติ โดยหน้าร้านทั้ง 6 สาขา เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 20:00 และมีมาตรการการดูแลอย่างเคร่งครัด เราทำความสะอาดแว่นตาทุกตัว และทำความสะอาดร้านทุกวัน หากต้องการตัดแว่นสายตาทางร้านยินดีให้บริการเสมอนะคะ
ช่องทางการติดต่อ
LINE : @giftgreats
Leave A Comment